ครอบแก้ว (Cupping Therapy)
การครอบแก้วเป็นการแบบแผนรักษาจีนโบราณ ด้วยการใช้แก้วทรงกลมครอบบนผิวหนัง เพื่อกระตุ้นไหลเวียนเลือด ลดปวด ส่งเสริมความงาม
ทำไมต้องครอบแก้ว
หลักการของการครอบแก้วนั้นเชื่อกันว่า พลังชีวิตหรือ “ชี่” ที่ไหลเวียนไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ การครอบแก้วจึงเป็นวิธีการดึงพลังชี่กลับสู่ร่างกาย ช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานอย่างเป็นปกติ
หลักการของการครอบแก้ว
- วัสดุที่ใช้ครอบ เช่น แก้วหรือกระบอกไม้ไผ่ จะถูกไล่อากาศออกด้วยความร้อน
- วางบนผิวหนัง เกิดเป็นแรงดูดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ผิวหนังบริเวณที่ครอบแก้วจะมีสีแดง แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น
- กระตุ้นระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท
- บรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดการอักเสบ และขับของเสียออกจากร่างกาย
ครอบแก้วตำแหน่งไหนได้บ้าง
ครอบแก้วสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีอาการผิดปกติ และสามารถวางครอบแก้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-5 เซนติเมตร ได้ เช่น หน้าท้อง แผ่นหลัง ท่อนแขน ท่อนขา
ขั้นตอนการครอบแก้ว
- แพทย์จะตรวจ หรือวินิจฉัยอาการเพื่อหาสาเหตุ
- ใช้สำลีมาชุบแอลกอฮอล์แล้วจุดไฟใส่เข้าในถ้วยแก้วที่เตรียมไว้เพื่อให้ถ้วยแก้วเกิดระบบสุญญากาศ แล้วนำถ้วยแก้วที่มีความร้อนไปวางคว่ำยังตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการที่จะรักษา
- แรงดูดสุญญากาศภายในครอบแก้วจะดูดผิวหนังและกล้ามเนื้อของผู้บำบัดขึ้นจนผิวหนังบริเวรนั้นเริ่มเปลี่ยนสีไปจากเดิม
- การครอบแก้วแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที แล้วจึงนำครอบแก้วออก
ข้อแนะนำในการครอบแก้ว
- ขณะครอบแก้ว ควรอยู่ในท่าที่แพทย์กำหนด โดยไม่ขยับร่างกาย ไม่เครียดจนเกินไป หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- ขณะครอบแก้ว อาจมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดมากขึ้น หน้ามืดใจสั่นเป็นลม ต้องรีบแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบทันที
- เมื่อนำแก้วออกแล้วอาจจะมีระบมเล็กน้อย หรือขึ้นสีม่วงได้ตามแต่สภาพร่างกายของผู้ป่วย
ข้อห้ามในการครอบแก้ว
- สตรีที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือด เช่น Hemophilia
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของลิ่มเลือด หรือมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง
- บริเวณโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น กลาก สะเก็ดเงิน
- ผู้ที่มีอาการชัก หรือลมบ้าหมู